1 Amelia Earhart
นี่คือนักสำรวจทางอากาศที่ประวัติไม่ธรรมดา ในครั้งหนึ่งที่เธอได้ขึ้นโชว์เครื่องบินเดี่ยวในครั้งแรก บนความสูง 200-300 ฟุต และรู้สึกว่าบินได้นั้น ก็ทำให้เธอได้ตกหลุมรักการบินเป็นที่เรียบร้อย
เธอทำงานเหมือนเป็นคนขับรถบรรทุก นักถ่ายภาพ และนักชวเลข ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในการฝึกการบิน ทำให้เธอได้รับใบอนุญาตการบิน และได้ซื้อเครื่องบิน bi-plane สีเหลือง และตั้งชื่อว่า “The Canary” เพื่อทำลายสถิติการบินจากยอดเขาสูงไปจนถึงเที่ยวบินที่เร็วที่สุด และได้กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในปี 1932 ความฝันของเธอคือการได้บินไปรอบโลก และการบินครั้งสุดท้ายของเธอคือในเดือน กรกฎาคม ปี 1937 เธอหายตัวไปในมหาสมุทรแปซิฟิกในขณะที่อายุยังไม่ถึง 40 และไม่มีใครเห็นเธออีกเลย…แต่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว
2 Angelina Jolie
คงแทบไม่มีใครไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ แองเจลิน่า โจลี่ ในระหว่างการเดินทางครั้งแรกในฐานะทูตพิเศษสำหรับสหประชาชาติ UN เธอได้เขียนลงในไดอารี่ว่า ได้พบชายแอฟริกันสวมสูทสีน้ำเงินและมาพร้อมรอยยิ้มแล้วถามเธอว่าเป็นนักข่าวหรือไม่ เธอตอบว่า “ไม่” เธอแค่เป็นชาวอเมริกันคนหนึ่งที่อยากเรียนรู้เรื่องแอฟริกา นี่คือเรื่องราวก่อนที่เธอจะได้รับภารกิจอีกหลายสิบภารกิจ เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยจากกรุงคาบูลและดาร์ฟูร์รวมถึงชายแดนซีเรีย – อิรัก เธอได้แลกเปลี่ยนกับผู้หญิงที่อยู่ในแคมป์ รวมไปถึงขอทาน และพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ในปากีสถาน
และในการเดินทางครั้งแล้วครั้งเล่าของเธอ ก็ได้มีลูกบุญธรรมจากทั่วมุมโลก (เธอมีรอยสักบนไหล่ของพิกัดของบ้านเกิดของเด็กแต่ละคน) และโจลี่ได้เดินทางไปทำงานนี้มาแล้วกว่า 40 ประเทศ และใช้เวลาอยู่กับสิ่งนั้นทั้งวันทั้งคืน และผู้คนเหล่านั้นก็สร้างแรงบันดาลใจกลับมาให้กับโจลี่มากมาย
3 Harriet Chalmers Adams
หนึ่งในคำสัมภาษณ์ของเธอให้กับ The New York Times ในปี 1912 คือ “ฉันสงสัยว่าทำไมพวกผู้ชายถึงให้ความสำคัญกับการสำรวจอย่างจริงจัง” ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกผู้ชายปฏิเสธไม่ให้ผู้หญิงไปยุ่งกับงานภูมิศาสตร์ เธอไม่เคยคิดว่าความเป็นผู้หญิงจะเป็นอุปสรรค ไม่มีปัญอะไรที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะไม่สามารถฟันฝ่าไปได้ และไม่เคยกลัวอะไรเลย
เธอเกิดในแคลิฟอร์เนีย เริ่มต้นการเดินทางจากการเป็นช่างภาพที่พูดได้หลายภาษา ได้ไปที่แม็กซิโกตอนอายุ 24 ตามด้วยการเดินทางสองปีจากเทือกเขาแอนดีสไปยังอเมซอนและต่อมาก็ข้ามเฮติด้วยการขี่ม้า
และได้เดินทางตามเส้นทางของ Christopher Columbus ผ่านหมู่เกาะอินเดียตะวันตกในสงครามครูเสดครั้งแรกเพื่อพิชิตสเปนในอเมริกาใต้และการเดินทางของเฟอร์ดินานด์มาเจลลันจากสเปนไปยังฟิลิปปินส์ ภายในเวลา 61 ปี และตั้งรกรากและใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองนีซประเทศฝรั่งเศส บางทีอาจเป็นที่ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสวยที่สุด
4 Martha Gellhorn
เกิดในเซนต์หลุยส์ในปี 1908 เธอหลงใหลในการเป็นนักข่าวสงคราม และเริ่มต้นการเดินทางในสนามรบของ เวียดนาม นิการากัว และตะวันออกกลาง เธอไปๆ มาๆ ระหว่างหลายๆ ประเทศ และได้เริ่มต้นชีวิตแต่งงานท่ามกลางสงครามกลางเมืองสเปน เธอพยายามจะปักหลักอยู่ที่คิวบา แต่ก็มีเรื่องให้เดินทางอีกจนได้ เธอได้กลับไปยุโรปและเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์อังกฤษทิ้งระเบิดเยอรมนี และงานเขียนของเธอกลายเป็นการเปิดมุมมองอีกโลกหนึ่ง
5 Cristina Mitermeier
จากชนชั้นกลางในชุมชนเล็กๆ ของแม็กซิโก เธอเริ่มต้นเดินทางตั้งแต่เด็กๆ ไปยังดิสนีย์แลนด์ในลอสแองเจลิสทุกๆ ปี และได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายของ Emilio Salgari นั่นเองที่เป็นผู้มาเติมเต็มจินตนาการ
เธอเรียนชีววิทยาทางทะเล เพราะว่าสนใจเรือโจรสลัดและการว่ายน้ำกับปลาโลมา มากกว่าเรื่องราวของการประมง นี่คือการเริ่มต้นเดินทางของผู้หญิงคนนี้ในฐานะส่วนหนึ่งใน SeaLegacy ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์ทะเล
การเดินทางที่แสนยาวนานจนได้รับรางวัลภาพถ่ายในตอนที่อายุ 52 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอไม่เคยได้หยิบจับกล้องถ่ายรูปเลยจนถึงอายุ 24 ปี ซึ่งหลังจากแต่งงานกับประธานาธิบดีแห่ง Conservation International ทำให้มีโอกาสเดินทางไปทั่วโลก และหยิบยืมกล้องของเขามาบันทึกภาพชนพื้นเมืองในบราซิลเป็นครั้งแรก ต่อมากลายเป็นภาพศิลปะในพิพิธภัณฑ์ฮูสตัน
เธอกลับไปสู่โลกของการเรียนอีกครั้ง โดยเรียนถ่ายภาพแบบจริงจัง โดยประสบการณ์การติดตามสามีไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และเป็นผู้ก่อตั้ง ก่อตั้ง International League of Conservation Photographers เราสามารถเข้าไปชมผลงานของเธอได้จากการโพสต์ IG ที่มีคนติดตามกว่าล้านคน
6 Maureen Wheeler
วีลเลอร์เติบโตขึ้นในหมู่บ้านจัดสรรในเบลฟัสต์ แต่เธอมีความฝันที่ไกลเกินกว่าขอบเขตของไอร์แลนด์เหนือ กับโทนี่สามีของเธอได้เดินตามเส้นทางฮิปปี้และแบกเป้จากสหราชอาณาจักรไปยังออสเตรเลียในช่วงต้นปี 1970 เมื่อทั้งคู่มาถึงออสเตรเลียพวกเขาเหลือเงินในกระเป๋าแค่เพียง 27 cent เท่านั้น
เขาเริ่มเขียนหนังสือไกด์บุ๊ค ด้วยกระดาษที่ทำง่ายๆ ชื่อว่า Across Asia on the Cheap ก่อนที่จะเร่ขายให้เพื่อนๆ และในร้านหนังสือ และในปี 1972 Lonely Planet ได้ถือกำเนิดขึ้นจัดให้หนังสือเล่มนี้เป็นไกด์บุ๊คที่ดีที่สุดในโลก หลังจากนั้นอีก 35 ปี ทาง BBC ได้ซื้อสำนักพิมพ์ไปในราคาเป็นสิบล้าน
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่หยุดเดินทาง ถึงแม้ว่าจะยุ่งอยู่กับงานที่บริษัทและลูกอีกสองคน เธอได้เขียน Travel With Children เป็นการเดินทางไปกับครอบครัวรวมถึงเด็กๆ ด้วย และงานเขียนฉบับล่าสุดเป็นฝีมือการเขียนจากลูกๆ ของเธอ
7 Jan Morris
เรื่องนี้ออกจะมึนๆ งงๆ สักหน่อย เพราะเป็นเรื่องราวการเดินทางของผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิง
เจมส์ มอริส เริ่มอาชีพของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ข่าวกรองหนุ่มในปาเลสไตน์และอิตาลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและต่อมาในฐานะนักข่าวข่าวประชุมเชเกวาราเยือนฮิโรชิมาหลังจากระเบิดนิวเคลียร์และรายงานการพิจารณาคดีของอดอล์ฟ และสกู๊ปใหญ่ของเขาก็คือ Edmund Hillary and Tenzing Norgay’s Everest climb in May 1953 เขาได้รับข่าวจากการประชุมสุดยอดบนความสูง 23,000 ฟุต และได้ลงจากภูเขาเพื่อส่งข่าวนี้เป็นโค้ดลับได้สำเร็จ
เจมส์แต่งงานมีลูกและในปี 2515 เขากลายเป็นหญิงในชื่อใหม่ว่า Jan และยังคงใช้ชีวิตกับ
อลิซาเบธ คู่แต่งงานของเธอได้อย่างดีเหมือนเดิม
8 Dervla Murphy
ไม่นานหลังจากวันเกิดครบรอบ 10 ปีของเธอและของขวัญจากจักรยานมือสองจากพ่อแม่ของเธอที่เมอร์ฟี่ย์ ขณะที่ปั่นจักรยานนั้นเธอก็ได้คิดขึ้นมาว่าจะขี่จักรยานไปอินเดีย ช่างเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่ของเด็กน้อยซะเหลือเกิน
และในอีก 20 ปีต่อมา การเดินทางจึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยการปั่นจักรยานจากไอร์แลนด์
ข้ามผ่านอัฟกานิสถาน ปากีสถาน ไปยังอินเดีย และก่อให้เกิดหลากหลายงานเขียน รวมไปถึงเรื่องการเมืองของแอฟริกา
เธอเป็นนักเขียนที่มีผลงานเขียนจำนวน 87 เล่มเดินทาง 24 เล่มครอบคลุม 54 ประเทศพร้อมกับหลากหลายเรื่องราวการผจญภัย เช่น การพบเสือเมื่อขี่จักรยานผ่านเนปาล, ดูจักรพรรดิแห่งเอธิโอเปียปราบจลาจล, ตื่นเต้นกับเสือดาวในขณะที่ตั้งแคมป์ในภูเขาแคเมอรูน
9 Kris Tompkins
นักอนุรักษ์สุดขั้วผู้อยู่เบื้องหลังมรดกทางบกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง เธอจะบินเกือบทุกวันในทุกสภาพอากาศเพื่อกำหนดความเป็นไปได้ในการอนุรักษ์ใหม่ๆ เรียนรู้ที่จะรักธรรมชาติมากยิ่งขึ้นเมื่อได้มองเห็นจากข้างบน เรียนรู้โลกจากการบินเป็นพันๆ ชั่วโมง
เธอและดั๊กทอมป์กินส์ สามีคนที่สองของเธอ ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่ออนุรักษ์ป่าอันบริสุทธิ์ สองฝั่งของชิลีและอาร์เจนตินา เธอบริจาคที่ดินกว่าล้านเอเคอร์ เพื่อผลักดันให้เกิดการอนุรักษ์ เพื่อต้องการให้ผู้คนออกไปสัมผัสกับป่าไม้และตกหลุมรักมัน ถ้าหากคุณหลงรักมันก็จะทนไม่ได้ที่จะไม่ทำอะไรเลยเพื่อเป็นการรักษาให้มันคงอยู่ต่อไป
10 Jane Goodall
คุณจะรักการเดินทางปีละ 300 วันได้อย่างไร เมื่อมันเป็นแค่โรงแรม และห้องประชุม และบางที่ปฏิบัติต่อเราเหมือนกำลังทำความผิดอะไรอยู่
เธอลากกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยหนังสือ ถ้วยกาแฟ กาน้ำร้อน โดยมีแพลนในอีกไม่กี่เดือนที่จะเดินทางไป กรุงเทพ ไต้หวัน ปักกิ่ง เฉิงตู ฮ่องกง กรีซ สเปน และฝรั่งเศส
ตอนเธอ 10 ขวบได้อ่านหนังสือ Dr. Doolittle and Tarzan และตัดสินใจที่จะอยู่กับสัตว์ป่าในแอฟริกา หลังจากเรียนจบจากโรงเรียน เพื่อนเธอชวนไปทำงานพนักงานเสิร์ฟที่เคนย่า ที่นั่นเธอได้พบกับนักบรรพชีวินวิทยา Louis Leakey ซึ่งให้โอกาสเธอในการทำงานเป็นนักวิจัยชิมแปนซี จากนั้นเธอใช้เวลาครึ่งศตวรรษในการสังเกตลิงชิมแปนซีที่อุทยานแห่งชาติ Gombe Stream ประเทศแทนซาเนีย ฉีกหนังสือเกี่ยวกับสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์ และกลายเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของสัตว์
ขอบคุณข้อมูลจาก CNtraveler