รวมเด็ด 20 แลนด์มาร์ค อเมริกา

3. ย่านดัง Time Square

ไทม์สแควร์ ย่านของคนทันสมัย ที่ตรงนี้เป็นจุดตัดของถนนบรอดเวย์ กับถนนเซเวนท์ เอเวนิว เป็นย่านธุรกิจระดับโลก มีทั้งสำนักงานใหญ่ของหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ สถานีรถไฟใต้ดินของนครนิวยอร์ก มีจอโฆษณาขนาดใหญ่มากมายติดอยู่โดยรอบ เพิ่มสีสันและความคึกคักให้ย่านนี้ และที่สำคัญที่นี่เป็นจุดเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่สำคัญของโลกอีกด้วย ใครวางแผนมาเที่ยวปีใหม่ก็ต้องมานัง 5 4 3 2 1 กันที่นี่แหละ

มาอเมริกาทั้งทีก็อยากจะชมเมืองบนตึกสูง ก็ต้องมาที่นี่เลย ตึกเอ็มไพร์สเตท ตึกนี้สูงทะลุเมฆไปเลยจ้า เพราะว่าเป็นอาหารหลังแรกของโลกที่มีความสูงมากกว่า 100 ชั้น ต้องขึ้นไปชมวิวกันสักหน่อยละ จากจุดชมวิวสูงสุดนี้เราจะเป็นเกาะแมนฮัตตันได้แทบจะทั้งเกาะ เป็นวิวใจกลางกรุงนิวยอร์กที่ว้าวมากๆ

ตึกนี้ไม่ธรรมดาเพราะได้ตำแหน่งความเป็นที่สุดมาถึงสองครั้ง โดยได้ตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลกมายาวนานกว่า 40 ปี หลังจากนั้นก็โดนตึกแฝดทำลายสถิติไป แล้วก็กลับมายืนหนึ่งอีกครั้งหลังจากตึกแฝดถล่ม กลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในนิวยอร์กไปเลย

5. สะพานบรูคลิน

เป็นอีกหนึ่งสะพานสำคัญของอเมริกา เพราะเป็นสะพานแขวนทอดข้ามผ่านแม่น้ำอีสต์ เชื่อมต่อเมืองนิวยอร์กซิตี้ แมนฮัตตัน และบรูคลิน เข้าด้วยกัน สะพานแห่งนี้มีมาก่อนสะพานโกลเด้นเกทซะอีก มีความเก่าแก่กว่าร้อยปีเลย เรียกว่ามาตั้งแต่เริ่มบุกเบิกอเมริกาเลยก็ว่าได้ เราสามารถขึ้นไปเดินเล่นบนสะพาน ชมวิวเมืองนิวยอร์กได้จากตรงนี้

6. ป้าย HOLLYWOOD

เห็นป้ายแบบนี้อยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง มันต้องไม่ธรรมดาแล้วล่ะ ป้ายนี้ตั้งอยู่ที่ Hollywood Hill เมืองลอสแองเจลิส นอกจากป้ายขนาดบิ๊กเบิ้ม ก็ยังเป็นจุดชมวิวเมืองแอลเอที่สวยมาก มีหอดูดาวด้วยนะ ได้ทั้งวิวเมืองวิวบนฟ้าเลย

7. สวนสาธารณะ Central Park

8. สวนสาธารณะลอยฟ้า The High Line

พูดถึงสวนสาธารณะกันมาแล้ว ก็อยากจะให้มาทำความรู้จักกับสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน ซึ่งความแปลกใหม่ก็อยู่ที่ มันคือสวนสาธารณะลอยฟ้าที่ใครๆ ก็มาได้ เปลี่ยนทางรถไฟสายเก่าให้กลายมาเป็นแหล่งธรรมชาติแห่งใหม่ใจกลางกรุง เป็นไอเดียที่ดีเลย มีที่ให้นั่งเล่นกินลมชมวิว หรือจะเดินเลียบไปตามทางเรื่อยๆ เราก็จะเห็นวิวใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ เหมือนกัน

9. น้ำตกไนแองการา

ดูสิ่งก่อสร้างมาก็เยอะ เราจะพาเข้าสู่ธรรมชาติกันบ้าง และสุดยอดธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของอเมริกาที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือ น้ำตกไนแองการา น้ำตกบนพื้นที่กว้างใหญ่ ความสูง 50 เมตร และความกว้างกินพื้นที่ไปถึง 300-800 เมตร ถือเป็นน้ำตกลูกครึ่งที่อยู่ตรงเส้นกั้นระหว่างอเมริกากับแคนาดา ใครใจกล้าขาลุยก็นั่งเรือไปชมน้ำตกกันแบบใกล้ๆ ได้นะ ได้รับแรงน้ำสาดกระเซ็นไปทั่วร่างเลย

10. รูปแกะสลัก Mount Rushmore

เมาท์รัชมอร์ ที่นี่ก็เป็นธรรมชาติ แต่มีคนช่วยสรรค์สร้าง จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กอเมริกา ตั้งอยู่บนเทือกเขา แบล็คฮิลส์ เซาธ์ดาโกต้า ในรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งเป็นรูปแกะสลักใบหน้าขนาดใหญ่ของประธานาธิบดีอเมริกันถึง 4 คน ซึ่งก็คื จอร์จ วอชิงตัน, โทมัส เจฟเฟอร์สัน, ทีโอดอร์ รูสเวล และ อับราฮัม ลินคอล์น โดยแกะสลักบนหน้าผาหินแกรนิตสูง 18 เมตร ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ต้องไม่ธรรมดาจริงๆ

11. อัศจรรย์ธรรมชาติ Grand Canyon

แกรนแคนยอน ชื่อนี้เราคงได้ยินกันบ่อยๆ เพราะเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในรับแอริโซน่า ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากการไหลผ่านของแม่น้ำคาโลราโดมานานกว่า 225 ล้านปี เกิดการสึกกร่อนเป็นหุบเขาและซอกหลืบสลับไปมา สวยงามน่าอัศจรรย์จริงๆ

12. หุบเขาสวย Antelope Canyon

แอนเทอโลป แคนยอน หุบเขาในรัฐแอริโซน่า อีกหนึ่งไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบมาเที่ยวอเมริกา ด้วยพลังของธรรมชาติที่ช่วยแต่งแต้ม ทั้งแรงลม กระแสน้ำ และการกัดเซาะ ทำให้เกิดสีสันและภาพที่สวยงามแบบนี้ แบบที่ใครก็ไม่สามารถทำให้เหมือนได้ ยิ่งมีแสงสาดส่องลงมายิ่งสวยงามจับตา แต่บนความงามก็อาจมีความอันตรายซ่อนอยู่ เพราะที่นี่มักจะมีน้ำท่วมฉับพลันอยู่บ่อยๆ ใครจะไปต้องเช็คข้อมูลกันให้ดีๆ

13. ทะเลสาบ Crater Lake

ทะเลสาบสวยๆ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Crater Lake ในรัฐแอริกอน เป็นทะเลสาบที่เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟที่มีความลึกมากที่สุดในอเมริกา ล้อมรอบไปด้วยป่าสนสวยๆ เรียกได้ว่าสวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

14. ขับรถชมวิวที่ Big Sur

บิ๊กเซอร์ แคลิฟอร์เนีย เป็นถนนสวยเลียบทะเลชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เหมาะแก่การเช่ารถแล้วขับมาชมวิวมากๆ ตลอดทางจะมีจุดแวะพักไว้จอดรถชมวิวได้ด้วยนะ ได้เห็นทั้งวิวทะเลและทุ่งหญ้าทุ่งดอกไม้ ได้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดทะเลแบบสุดๆ ไปเลย

15. ภูเขาหินทราย Monument Valley

ภูเขาหินทรายสีแดง ที่เก่าแก่กว่า 50 ล้านปี ทำให้เห็นแท่งหินขนาดใหญ่อยู่เป็นจุดๆ ซึ่งก็เกิดจากการสึกกร่อนไปตามกาลเวลา  เห็นแล้วได้ฟีลคาวบอยเบาๆ ที่นี่เป็นพรมแดนระหว่างรัฐแอริโซนา และรัฐยูทาห์

16. อุทยานแห่งชาติ Yosemite National Park

อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นอุทยานที่มีความสมบูรณ์แบบครบๆ ทั้งภูเขารูปโดมครึ่งซีก น้ำตกขนาดใหญ่ แม่น้ำลำธาร ป่าสน ต้นไม้ ชวนไปนั่งชิวที่ Mirror Lake ทะเลสาบใสๆ ที่มองเห็นภาพกระทบผืนฟ้าบนผืนน้ำ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามมาก ใครโชคดีอาจจะได้เจอหมีกลิซลี่แบบใกล้ชิด แต่ไม่ต้องกลัวไปเพราะเค้ามีคู่มือปฏิบัติให้ด้วย

17. อุโมงค์น้ำแข็ง Mendenhall Glacier

อุโมงค์น้ำแข็งแห่งอลาสก้า ยาวกว่า 19 กิโลเมตร อลังการธรรมชาติที่เกิดจากความเหน็บหนาวล้วนๆ รวมไปถึงธารน้ำแข็งขนาดใหญ่มหึมาที่เห็นแล้วต้องตะลึง จุดไฮไลท์คือถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าที่สวยใสราวกับคริสตัล ใครชอบสัมผัสอากาศหนาวเย็นยะเยือกแบบน้ำแข็ง ต้องไป

18. ทุ่งดอกบลูเบล (Bluebells)

ไปชมดอกไม้สวยๆ ให้ชื่นใจกันบ้าง กับทุ่งดอก Bluebells และดอก Bluebonnets เมืองวิลโลว์ รัฐเทกซัส ดอกไม้ดอกเล็กๆ สีม่วง ตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียว สวยยังกะในนิยาย อากาศก็ดี๊ดี ใครอยากมาชมดอกไม้ที่นี่ต้องมาช่วงฤดูที่ดอกไม้กำลังบาน รับรองไม่มีผิดหวัง

19. ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe)

นี่ก็เป็นทะเลสาบที่อยู่ระหว่างรัฐเนวาดาและรัฐแคลิฟอร์เนีย ทะเลสาบที่มีน้ำใสราวกับกระจก จนมองลงไปเห็นพื้นข้างล่าง มาที่นี่นอกจากจะได้พักผ่อนชื่นชมธรรมชาติ ยังมีกิจกรรมสนุกๆ เช่นล่องเรือ ขี่จักรยาน ขึ้นบอลลูน และถ้ามาช่วงฤดูหนาวก็เล่นสกีได้ด้วย

20. บ่อน้ำพุร้อน Grand Prismatic Spring

บ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พรีสเมติก รัฐไวโอมิง น้ำพุที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park) โดดเด่นด้วยสีที่ไล่ระดับกันเป็นสีรุ้ง มองจากมุมสูงจะสวยมาก แต่อย่าเผลอไปยืนใกล้ๆ เชียวนะ เพราะว่าทั้งกว้างทั้งลึกมาก กว้างถึง 370 เมตร และลึกถึง 121 เมตร