ทำไงให้หาย Jet Lag ?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเจ้าเจ็ทแล็กกันก่อน Jet Lag คืออะไร มันก็คืออาการที่จะเกิดขึ้นเวลาเราเดินทางข้ามโลกไปนานๆ หรือข้ามเวลา Time Zones นั่นเอง โดยเฉพาะการเดินทางไกลๆ อย่าง ยุโรป อเมริกา จะเกิดอาการนี้ได้ง่าย เพราะเหมือนว่าร่างกายจะมึนงงกับช่วงเวลาใหม่ ทำให้ปรับตัวไม่ทัน พูดง่ายๆ ก็คือเมาเวลานั่นเอง

ซึ่งอาการนี้บางคนก็เป็น บางคนก็ไม่เป็นอะไรเลย ส่วนคนที่เกิดอาการก็จะแสดงอาหารไม่เหมือนกัน บางคน คลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว หน้ามืด นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ก็แล้วแต่ว่าร่างกายของเราจะแสดงออกมา คราวนี้จะทำไงให้หาย Jet Lag ล่ะ ลองทำตามนี้ดูจ้า

เตรียมรับมือกันตั้งแต่ก่อนเดินทาง

  • ไฟลท์บินดี มีชัยไปกว่าครึ่ง พยายามเลือกไฟลท์ที่บินกลางคืนแล้วถึงตอนเช้า พอไปถึงก็เหมือนตื่นนอน จะสดชื่นกว่า
  • เลือกไฟลท์แบบต่อเครื่อง หลายคนอาจจะคิดว่าบินตรงทีเดียวถึงมันสบายกว่ากันเยอะ แต่ว่าถ้าต้องเดินทางไกลขนาดนั้นมันก็เมื่อยเอาได้ง่ายๆ เลยนะ การเลือกเดินทางแบบต่อเครื่อง ก็สามารถออกมายืดเส้นยืดสาย ให้เลือดหมุนเวียนดีอีกต่างหาก
  • ปรับนาฬิกาชีวิตให้คุ้นชิน ค่อยๆ ปรับเวลานอนสัก 2-3 วันก่อนบิน ถ้าไปทางตะวันตกให้นอนดึกขึ้น ถ้าไปทางตะวันออกให้นอนแต่หัวค่ำ
  • แข็งแรงเข้าไว้ เตรียมร่างกายให้พร้อม ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ จำเอาไว้ว่าเราจะป่วยไม่ได้ เพราะไม่อย่างงั้นจะเที่ยวหมดสนุกไปเลย แนะนำว่าถ้าป่วยก่อนเดินทาง ควรเลื่อนไฟลท์บิน
  • อุปกรณ์การนอนต้องพร้อม เตรียมอุปกรณ์ในการนอนเอาไว้ให้ครบอย่าได้ขาด อย่างเช่นผ้าปิดตาอะไรอย่างงี้ควรมีไว้เลย ยิ่งมืดเท่าไหร่ เราก็จะได้หลับสนิทมากยิ่งขึ้น

ระหว่างเดินทางบนเครื่องบิน

  • ปรับนาฬิกาข้อมือ ควรมีนาฬิกาข้อมือและปรับเวลาให้ตรงกับประเทศที่เราจะเดินทางไป จะได้คุ้นเคยกับเวลาเอาไว้ก่อน และจะได้รู้เลยว่าไปถึงแล้วจะเป็นเวลากี่โมง ในมือถือก็มีให้ปรับได้เหมือนกันนะ
  • ดื่มน้ำให้เปล่าให้เยอะๆ เพราะอากาศข้างบนจะแห้ง และความกดอากาศในเครื่องบินจะทำให้เราสูญเสียน้ำในร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นควรหมั่นเติมน้ำให้กับร่างกาย เพื่อชดเชยกับที่สูญเสียไป
  • ปรับตัวในการกิน นอกจากจะปรับนาฬิกาแล้ว การกินก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน ในระหว่างเดินทางไม่ควรจะกินอะไรมากนักสอดคล้องกับเวลาที่เราจะเดินทางไปถึง ควรกินอะไรไม่ให้ท้องว่าง แต่ก็ไม่ควรให้หนักท้องจนเกินไป เดี๋ยวจะไม่สบายตัวแล้วนอนไม่หลับเอาได้
  • ยืดเส้นยืดสาย แน่นอนล่ะว่าเดินทางไกลหลายชั่วโมงต้องเมื่อยกันแน่ๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองนั่งอยู่ในท่าเดียวนานเกินไป อาจจะขยับตัวปรับเปลี่ยนท่าบ้างก็ได้ แต่ถ้าให้ดีก็ลุกขึ้นเดินหรือไปห้องน้ำบ้าง เพื่อให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น
  • การนอนสำคัญที่สุด บางคนเดินทางไม่เคยนอนเลย แต่ว่ามันจำเป็นมากๆ เลยนะ พยายามนอนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอุปกรณ์การนอนที่เราเตรียมไว้เอาออกมาใช้ได้เต็มที่ เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนให้ได้มากที่สุด

ถึงแล้วก็ยังเป็น ทำไงให้หาย ?

  • ทำให้ร่างกายตื่นตัว เมื่อที่นั่นเป็นเวลากลางวัน แต่ร่างกายยังไม่รู้ว่านี่คือกลางวัน เราก็ต้องทำให้ร่างกายรู้ตัวโดยให้ตื่นตัวมากที่สุด เช่น ออกไปเดินเล่นรับแสงแดด ซึ่งวันแรกอาจจะฝืนๆ ง่วงหน่อย แต่เดี๋ยวก็จะชินเอง
  • อาบน้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลาย ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดี กระบวนการต่างๆ ก็ปรับตัวได้ดี ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับสบาย
  • พักผ่อนหลังอาทิตย์ตกดิน ถ้ายังไม่ถึงเวลากลางคืนอย่าเพิ่งนอน ให้ร่างกายรู้ว่าตอนนี้ตอนกลางวัน และตอนนี้ตอนกลางคืน
  • เวลานอนทำให้ห้องมืดที่สุด บางทีเราอาจจะยังนอนไม่หลับ เพราะยังปรับตัวไม่ได้ เพราะฉะนั้นความมืดจะทำให้ร่างกายพักผ่อนเต็มที่และหลั่งสารที่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลักๆ ที่สำคัญคือดื่มน้ำเปล่ามากๆ และนอนให้มากๆ ค่อยๆ ปรับตัวไปเรื่อยๆ ทำได้เท่านี้ก็สามารถรับมือกับอาการเหล่านี้ได้ เที่ยวไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่น