บางทีเที่ยวในประเทศเนี่ย บางคนก็บินกันเป็นว่าเล่น อาจจะเคยชินกันบ้าง แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะได้เดินทางไปไหนสักเท่าไหร่ แล้วเวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ อาจจะเป็นกังวลกันบ้าง ว่าจะทำผิดทำถูกหรือเปล่า ไหนจะมีสัมภาระที่ต้องเตรียมอีก และยังมีเอกสารจำเป็นอีก ไม่ใช่บ้านเราซะด้วยสิ เกิดพลาดมาล่ะแย่เลย อย่าเพิ่งคิดมากจ้า สำหรับมือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศครั้งแรก ทำตามนี้เลย
เตรียมตัวให้พร้อม
สำหรับ มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบิน นอกจากเตรียมตัวเตรียมใจแล้ว เอกสารและสิ่งสำคัญต่างๆ ต้องพร้อมนะจ๊ะ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- ขาดไม่ได้เลยก็ต้องเป็น Passport ซึ่งในวันเดินทางก็ต้องยังไม่หมดอายุและยังใช้ได้อย่างน้อยอีก 6 เดือน สำหรับประเทศไหนที่ต้องใช้วีซ่า ก็อย่าลืมเรื่องวีซ่าด้วยนะ
- ตั๋วเครื่องบิน โดยปกติต้องมีทั้งไปและกลับ เพราะบางประเทศจะให้เราแสดงก่อนเข้าประเทศ เพื่อจะได้รู้ว่าเราไปแล้วกลับจริงๆ นะ
- แลกเงินเอาไว้ก่อน เป็นเงินสกุลประเทศที่จะเดินทางไป อาจจะเป็นร้านที่รับแลกเงิน หรือจะไปแลกเอาที่สนามบินก็ได้ แต่ว่าถ้าแลกที่สนามบิน เรทจะสูงกว่าหน่อย
มาก่อนเวลา 2 ชั่วโมง
ควรจะกะเวลาให้ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2 ชั่วโมง จะได้ไม่ฉุกละหุก ยิ่งเป็น มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบิน ด้วยแล้วยิ่งต้องเผื่อเวลาเอาไว้ให้มากๆ ใครมาแบบฉิวเฉียดถึงเข้าไปแล้วก็ต้องวิ่งเข้าเกทให้ทัน วิ่งกันจนหอบเลยล่ะ เพราะฉะนั้นไปก่อนก็สบายใจได้ว่าไม่ตกเครื่อง และมีเวลาทำอะไรอื่นๆ ได้อีกเยอะ
-
- มีเวลาสำหรับตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อย
- มีเวลาเข้าคิว เช็คอิน และรับบัตรขึ้นเครื่อง (Check-in)
- มีเวลาผ่านด่านตรวจคนเข้าออกจากประเทศไทย
- มีเวลาแลกเงิน
- มีเวลาร่ำลา หรือโทรศัพท์ก่อนขึ้นเครื่อง
- มีเวลาเดินสำรวจร้านค้า เผลอๆ ได้ช้อปปิ้งตั้งแต่ไม่ขึ้นเครื่อง
- มีเวลาเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัว หรือหาอะไรกินก่อนเดินทาง
- สุดท้ายมีเวลาเดินหาประตูขึ้นเครื่อง ยิ่งถ้าอยู่เกทไกลๆ ยิ่งใช้เวลาเดินนาน เผื่อเอาไว้แหละดี
ตรวจสอบเที่ยวบิน
เมื่อถึงสนามบิน เช็คดูจอมอนิเตอร์ว่า ไฟลท์บินอะไร ออกตามเวลา หรือดีเลย์เค้าน์เตอร์เช็คอินหมายเลขอะไร
ได้เวลาเช็คอิน
ไปที่เคาท์เตอร์สายการบินที่เราจองตั๋วไว้ เข้าเช็คอินโดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วเครื่องบิน และรับบัตรสำหรับขึ้นเครื่อง หรือ Bording Pass
ใครยังงงอยู่ มีตั๋วเครื่องบินแล้วจะเดินดุ่มๆ ขึ้นเครื่องไม่ได้นะจ๊ะ ตั๋วเครื่องบินกับบอร์ดดิ้งพาสเป็นคนละใบกัน ต้องให้เค้าออก Bording Pass ให้ก่อน เมื่อได้รับแล้ว มันก็จะเป็นบัตรที่เราสามารถถือผ่านเข้าไปได้ ในบัตรจะแสดงรายละเอียด เป็นชื่อเรา เดินทางไฟลท์ไหน้ ต้องไปขึ้นเครื่องที่ประตูไหน นั่งเก้าอี้ตัวไหน อย่าลืมตรวจสอบข้อมูล ชื่อ-สกุล ให้เรียบร้อยว่าถูกต้องหรือเปล่า และจะมีใบ ตม. เปล่าๆ อีกหนึ่งใบแนบมาพร้อมกันด้วย
ตรวจบัตรเสร็จแล้วก็นำกระเป๋าผ่านเข้าเครื่อง X-Ray เพื่อนำไปเช็คอิน ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เราจะฝากไปเก็บใต้ท้องเครื่องบิน อย่าลืมเช็คดูก่อนนะว่ากระเป๋าเราผ่านเข้าไปแล้ว กระเป๋าจะได้ตามเราไปด้วย ไม่ตกหล่น แล้วอีกอย่าง ของสำคัญต่างๆ ให้เอาใส่กระเป๋าถือติดตัวไว้นะ อย่าโหลดไปหมดทุกอย่าง เพราะว่าเมื่อโหลดกระเป๋าแล้วจะไม่สามารถรื้อออกมาได้อีก
ตรวจหนังสือเดินทาง
ใบ ตม. ที่ได้รับมานั้น ให้กรอก 2 หน้า บัตรขาออก และ บัตรขาเข้า กรอกเป็นภาษาอังกฤษช่องละ 1 ตัวอักษร โดยข้อมูลต้องตรงกับใน Passport ดูดีๆ ต้องกรอกนามสกุลก่อน แล้วตามด้วยชื่อนะจ๊ะ
กรอกเสร็จแล้วก็เอาไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เอาไปยื่นพร้อมเอกสารอื่นๆ ทั้ง Passport และ Bording Pass ที่ตรงประตูทางเข้า รอรับใบเข้าเมืองที่เจ้าหน้าที่ฉีกคืนให้เราครึ่งหนึ่งพร้อมกับพาสปอร์ตคืนมา เก็บไว้ดีๆ อย่าทำหายนะ
สแกนสัมภาระ
ตรวจหนังสือเดินทางเสร็จแล้ว ก็ไปสแกนสัมภาระกันต่อ จะมีทางเดินเข้าช่องสแกนสัมภาระ ให้เอาสิ่งของในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง กระเป๋าสตางค์ ไปเก็บไว้ในกระเป๋าถือ เสื้อคลุมต้องถอดออก บางสนามบินที่เข้มงวดมากจะต้องถอดเข็มขัด และ รองเท้าด้วย ส่วนน้ำดื่มจะต้องทานให้หมดก่อนเข้าสแกนสัมภาระ หรือไม่ก็ต้องทิ้งลงถังขยะ กระเป๋าถือ เป้ ให้วางลงในสายพานผ่านเครื่อง x-ray ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แล้วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ
รอขึ้นเครื่อง
หลังจากสแกนสัมภาระเสร็จ ได้สัมภาระคืนกลับมาแล้ว เราก็จะเข้ามาอยู่ในโซนด้านในแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเครื่องอาจจะหาอะไรกิน แวะเดินเล่นช้อปปิ้ง Duty Free ได้ อย่าลืมเผื่อเวลาเดินไปเกตด้วยนะ บางเกตอยู่ไกลจะไม่ทันเอา ซึ่งเค้าก็จะระบุไว้ใน Boarding Pass ของเราแล้วแหละ ว่าให้ไปขึ้นที่เกตไหน เดินไปตามลูกศรที่ชี้ไว้เลย จะมีป้ายบอกทางอยู่เป็นระยะๆ
ระหว่างรอขึ้นเครื่องให้สังเกตจอหน้าเกตว่าเป็น Flight ที่เราบินหรือเปล่า เพราะบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนเกต หรือบางทีเข้าไปแล้วไฟลท์ดีเลย์ก็มี ถ้าดีเลย์ก็มีเวลาเดินเล่นในนั้นอีกนานไม่ต้องรีบร้อน ทางที่ดีควรไปถึงหน้าประตูก่อนเครื่องขึ้นอย่างน้อย 30-40 นาที ไปนั่งรออยู่แถวนั้น รอเค้าเรียกขึ้นเครื่อง
ขึ้นเครื่อง
ก่อนเครื่องออกจะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่จะขอดู Passport พร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปได้เลย
ออกเดินทาง
เมื่อขึ้นไปอยู่บนเครื่องแล้วให้นั่งตามหมายเลข สังเกตง่ายๆ จะติดอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระที่อยู่บนหัวนั่นแหละ เรียงไปตาม ABCD จากซ้ายไปขวาของแต่และแถว ส่วนแถวก็เป็นเลขแถว 1 2 3 ไปเรื่อยๆ หากหาไม่เจอสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้
เจอที่นั่งแล้วก็เก็บสัมภาระไว้ในช่องด้านให้เรียบร้อย ของมีค่าให้เก็บไว้กับตัว จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เปิดม่านบังแสง ปิดโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ดูสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่บนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะแจกใบ ตม. ของประเทศที่เราจะไป ให้เรากรอกข้อมูล
ระหว่างเดินทางอาจมีเจ้าหน้าที่มาเสิร์ฟอาหาร สำหรับใครที่บินสายการบินแบบ Full Service เค้าจะมีอาหารให้อยู่แล้ว แต่สำหรับสายการบิน Low Cost ไม่ได้มีแจก ต้องซื้อเพิ่มนะจ๊ะ
ถึงแล้วๆ
เมื่อมาถึง ลงจากเครื่อง เดินตามป้าย Arrivals หรือ Immigration เตรียมเข้าด่าน ตม. ของประเทศนั้น ให้เตรียม Passport + ใบ ตม. ไว้รอตรวจให้พร้อม
เสร็จจาก ตม. ก็ไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพานแล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น เมื่อเจอแล้วก็อย่าลืมตรวจเช็คให้ดีว่าใช่กระเป๋าเราหรือเปล่า บางทีอาจจะเหมือนกันได้ จะได้ไม่สลับกัน แล้วดูด้วยว่ามีส่วนไหนแตกหักเสียหายหรือเปล่าหากเกิดความเสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามความเป็นจริง ถ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย
- คนที่ไม่มีสิ่งของจะต้องแสดง ให้ออกทางช่องเขียว
- คนที่มีสิ่งของต้องแสดง เช่น นำเข้าสินค้าปริมาณมากในเชิงพานิชย์ ให้ออกทางช่องแดง
ต่อไปก็ได้เวลาเที่ยวแล้วสิ แค่นี้มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินก็ไม่ต้องกลัวขึ้นเครื่องกันแล้วล่ะ เดินทางปลอดภัยราบรื่น เที่ยวสนุกกันทุกคนนะคะ