ร้อนนี้ หนีไปพักร่างกับรีสอร์ทสวยๆ ในทะเลมัลดีฟส์กันดีกว่า แนะนำรีสอร์ทสุดฮิต ที่คงคุ้นชื่อกันอยู่แล้ว แต่ว่าเราจะพาไปรีวิวรีสอร์ทมัลดีฟส์กันให้ลึกซึ้งกว่าเดิม ที่ Centara Ras Fushi Resort & Spa Maldives รีสอร์ทสุดหรูของมัลดีฟส์ มีอะไรดีทำไมใครๆ ก็ไป
เซ็นทารา ราสฟูชิ รีสอร์ตแอนด์สปา มัลดีฟส์ เป็นรีสอร์ทมัลดีฟส์ระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะ Giraavaru Island (เกียร์ อวา รู ไอร์แลนด์) ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของมาเล่อะทอล ลงเครื่องที่สนามบินมาเล่ ก็สามารถต่อสปีทโบ้ทไปยังรีสอร์ทได้ในเวลาแค่ 15 นาที มองเห็นน้ำทะเลใสๆ ไปตลอดทาง แป๊บเดียวก็ถึงที่พัก เป็นรีสอร์ทเงียบสงบเหมาะสำหรับทริปกระชับรัก หรือฮันนีมูนสวีทเบาๆ เพราะไม่อนุญาตให้เด็กเข้าพักนะจ๊ะ
มาถึงแล้ว ลองเดินดูบรรยากาศโดยรอบ สวยมากจริงๆ หาดทรายขาวๆ ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าสด มีเก้าอี้ เตียง ให้เลือกมุมนั่งนอนผ่อนคลายแบบชิลล์ๆ ใครไม่ชอบลงทะเลให้เหนียวตัวก็มีสระว่ายน้ำด้วยนะ
เข้าไปดูห้องพักกัน สามารถเช็คอินได้ตั้งแต่ 15.00 น. และเช็คเอาท์ก่อน 12.00 น. ภายในห้องพักมีความสะดวกสบายครบครัน มีไวไฟให้อัพรูปได้รัวๆ ทั้งความสะดวกสบายอื่นๆ แอร์ ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี มินิบาร์ มองออกเป็นเห็นวิวทะเลสีฟ้าใส ห้องน้ำที่มีทั้งส่วนของชาวเวอร์ และอ่างให้แช่กันแบบฟินๆ มาดูแต่ละห้องว่ามีความเหมือนความต่างกันยังไง จะได้ตัดสินใจเลือกห้องได้ตรงตามความต้องการ
Ocean Front Beach Villa ห้องพักริมหาด ขนาด 45 ตารางเมตร มีระเบียงส่วนตัวจากห้องพัก มีเตียงชายหาดมองเห็นวิวทะเล มีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ให้เลือก
Deluxe Ocean Front Beach Villa ห้องพักริมหาดแบบดีลุกซ์ ขนาด 51 ตารางเมตร มีระเบียงส่วนตัวจากห้องพัก มีเตียงชายหาดมองเห็นวิวทะเล มีเตียงแบบคิงไซส์ มีอ่างสปากลางแจ้ง
Deluxe Water Villa มาดูห้องกลางน้ำกันบ้าง ซึ่งจะมีห้องแบบดีลักซ์ ขนาด 42 ตารางเมตร มีระเบียงส่วนตัวให้นั่งเล่นพักผ่อน หรือว่าจะลงทะเลได้จากห้องพักของเราเอง สามารถเลือกได้ว่าเตียงคิงไซส์หรือเตียงคู่
และยังมีห้องแบบ Sunset มองเห็นวิวอาทิตย์ตกดินอีกด้วย
Deluxe Spa Over Water Villa ห้องนี้ก็จะมีเพิ่มจากห้องดีลุกซ์คือ มีอ่างสปาเพิ่มขึ้นมาให้นั่งแช่กันแบบฟินๆ พร้อมระเบียงที่ยื่นออกไปในทะเล มองเห็นวิวทะเลได้แบบรอบตัว ห้องขนาด 42 ตารางเมตร
Premium Deluxe Spa Water Villa เพิ่มความพรีเมียมเข้าไปอีก นอกจากจะมีอ่างสปาริมระเบียงแล้ว ก็ยังมีเปลนอนตาข่ายยื่นเข้าไปในทะเลเพิ่มขึ้นมาให้ได้ฟีลทะเลแบบส่วนตัว ห้องขนาด 42 ตารางเมตร มีทั้งแบบเตียงเดี่ยว เตียงคู่
ที่นี่เค้ามี room service ตลอด 24 ชั่วโมง ห้องอาหารและบาร์ ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารไทย อิตาเลียน และอาหารนานาชาติ
โดยมีบุฟเฟต์อาหารเอเชียนและนานาชาติอยู่ที่ห้อง Oceans มีทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งจะเป็นห้องอาหารหลัก มีเมนูสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนในแต่ละวัน ส่วนห้องอาหารอื่นๆ จะต้องจองล่วงหน้า
ดินเนอร์พวกเนื้อย่างแนวตะวันออกกลางที่ห้อง Al Khaimah เป็นแบบเมนู À la carte ได้ฟีลกระโจมแบบเบดูอินสไตล์อาหรับ ได้กลิ่นเครื่องเทศเครื่องหมักที่ปรุงกันแบบสดใหม่ทุกวัน
ถ้าอยากได้ฟีลอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ต้องที่ La Brezza เป็นแบบเมนู À la carte ในมื้อกลางวัน และดินเนอร์ ซึ่งถือเป็นอาหารมื้อสุดหรูในบรรยากาศโรแมนติก ลิ้มรสไวน์ชั้นดี มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และมองไปไกลถึงวิวทะเล
อาหารไทยรสชาติที่คุ้นเคยห้อง Suan Bua เป็นแบบเมนู À la carte ในมื้อกลางวัน และดินเนอร์ มาในแบบอาหารไทยทั้งสี่ภาคของชื่อห้องอาหารสวนบัว เข้ากับบรรยากาศบ้านเรา
อาหารมื้อพิเศษในโอกาสพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มานั่งในห้องอาหารแบบมื้ออื่นๆ แต่จะได้รับประสบการ์ดินเนอร์สุดโรแมนติกริมหาดท่ามกลางแสงเทียน ใครอยากได้บรรยากาศแบบนี้ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้า
หรือถ้าอยากผ่อนคลายไปกับเครื่องดื่มหรือค็อกเทลเบาๆ ต้องที่ Viu Bar, Waves Pool Bar หรือไม่ก็ Giraavaru Lobby Bar
มาเที่ยวทั้งทีอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ต้องออกมาทำกิจกรรมสนุกๆ กันบ้าง ที่นี่เค้าก็มีกิจกรรมให้เราเลือกสนุกได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น วินด์เซิร์ฟ พายเรือแคนู ฟิตเนส โยคะ หรือจะผ่อนคลายไปกับสปา
