เมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น ที่ไปแล้วต้องหลงรัก

ใครที่หลงรักญี่ปุ่นอยู่ล่ะก็ ต้องไม่ควรพลาดความน่ารักของเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น เพราะว่ายังคงมีกลิ่นอายญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และวัฒนธรรมน่ารัก ความเงียบสงบไม่วุ่นวาย แต่เป็นเสน่ห์ให้เมืองเหล่านี้ใครๆ ไปแล้วก็ต้องตกหลุมรัก

1. ทาคายาม่า

มันคือความอบอุ่นตั้งแต่ย่างก้าวเข้าสู่เมืองนี้ เพราะว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างดีมากๆ ยังกะสตาฟเอาไว้ยังไงยังงั้น บ้านไม้เก่าแก่ที่เรียงรายเป็นสีเดียวกัน มีวัดและศาลเจ้าเล็กๆ ให้เราเข้าไปกราบไหว้ ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นของต้นไม้ แม่น้ำ ภูเขา อากาศสบายๆ กำลังดี

2. ชิราคาวาโกะ

หมู่บ้านมรดกโลก หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ในหุบเขาที่ห่างไกลจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ทำให้เป็นหมู่บ้านที่ไม่เคยหมุนไปตามกาลเวลา เราจะเห็นความฉลาดในการสร้างบ้านของคนสมัยก่อน บ้านเรือนหลังคาทรงจั่วลาดเอียงลงมา พร้อมความหนาของหลังคาสามารถทนต่อหิมะที่ปกคลุมเป็นอย่างดี และรายละเอียดเล็กๆ อีกหลายอย่างที่ต้องบอกเลยว่า หมู่บ้านนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

3. ยูฟูอิน

อีกหนึ่งความเรียบง่ายและเงียบสงบของเมืองยูฟูอิน เป็นเสน่ของเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่นบนเกาะคิวชูตอนใต้ ที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา และสายน้ำไหลเย็น มีร้านค้าที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารัก หรือใครอยากปั่นจักรยานชมเมืองก็สามารถทำได้

4. เมืองซากะ

ใครชอบเข้าถึงธรรมชาติ เมืองซากะ ตอบโจทย์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างฟุกุโอกะ และนางาซากิ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ นอกจากสีสันของต้นไม้ดอกไม้ อย่าลืมไปหาของอร่อยที่ตลาดเช้า รับรองว่าอาหารทะเลที่นี่สดมาก ทั้งหมึกสด หอยนางรมเผา อร่อยฟินนน

Cr. info.mifuneyamarakuen.jp

5. เบปปุ

เบปปุ เมืองแห่งออนเซ็น เป็นเมืองที่มีน้ำพุร้อนจากธรรมชาติผุดขึ้นมามากที่สุด แถมน้ำพุในแต่ละแห่งยังมีแร่ธาตุและลักษณะสีสันที่แตกต่างกันออกไปด้วย นี่ถ้าได้มาแช่ออนเซ็นตอนหน้าหนาว คงจะอุ่นน่าดู

6. คารุอิซาว่า

เมืองเล็กๆ แต่เก๋ไปด้วยบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ทำให้เมืองนี้โรแมนติกมากขึ้นไปอีก ยิ่งอยู่แวดล้อมด้วยขุนเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้ฟีลเหมือนไปยุโรปเลยล่ะ

Cr. zekkeijapan.com

7. คาวาโกเอะ

เราจะพาไปเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้โตเกียวเพียงนิดเดียว ใครจะคิดว่าเมืองหลวงที่มีคนมากมาย แค่เดินทางห่างออกไปอีกนิดก็เหมือนว่าอยู่กันคนละโลก คาวาโกเอะ เป็นเมืองที่จะพาเราย้อนอดีตไปยังสมัยเอโดะ กับอาคารบ้านเรือนแบบโบราณ ใครอยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่น เชิญมาเมืองนี้กันได้เลย

Cr. edition.cnn.com

8. คางาวะ

คางาวะ เมืองแห่งต้นมะกอกและกังหันสไตล์ยุโรป กังหันสีขาวโดดเด่นอยู่บนเนินเขา มันช่างวิวดีซะนี่กระไร และเมืองนี้ยังเป็นเมืองแห่ง Olive Park แหล่งปลูกต้นมะกอกที่สำคัญของญี่ปุ่น วิวสวยๆ ภายใต้เงาไม้เขียวๆ มันดีต่อใจจริงๆ

Cr. www.mystays.com

9. โอตารุ

คงไม่ต้องพูดเยอะถึงความน่ารักของเมืองที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกที่สุดบนเกาะฮอกไกโด การได้เดินเล่นชมสะพานข้ามคลอง กลางวันมองเห็นท้องฟ้าสดใส กลางคืนเดินเลียบคลองท่ามกลางแสงไฟ และยิ่งช่วงเทศกาลหิมะ ที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนที่ควงกันมาสวีทกันให้น่าอิจฉา ว่าแล้วก็จะควงไปแข่งบ้างแล้วล่ะ

10. ฮาโกดาเตะ

ยัง ยังไม่หมดสำหรับเกาะฮอกไกโด พอข้ามมาถึงเมืองฮาโกดาเตะ ก็จะได้ฟีลยุโรปน้อยๆ เพราะที่นี่เป็นเมืองท่าที่รับเอาวัฒนธรรมจากที่ต่างๆ ทำให้ตึกรามบ้านช่องมีกลิ่นอายยุโรปให้เราได้เดินเล่นกันชิวๆ และที่สำคัญตอนกลางคืนห้ามพลาดขึ้นไปชมวิวเป็นอันขาด เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 วิวสวยที่สุดของญี่ปุ่น

ว่าแต่ จะเริ่มไปเมืองไหนก่อนดีน้าาา…ไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองเล็กๆ ของญี่ปุ่นกันเถอะ