อิ่มนี้อร่อยติดดาว 12 ร้านมิชลินสตาร์ โตเกียว | ญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่น นอกจากเรื่องเที่ยวแล้ว เรื่องกินก็เรื่องใหญ่ แต่ว่ารอบนี้เราจะพาไปกินร้านอาหารอร่อยติดดาวตามแบบฉบับมิชลินสตาร์กันเลยจ้า เดี๋ยวก่อนๆ อย่าเพิ่งคิดว่าร้านอาหารมิชลินจะแพงจนเอื้อมไม่ถึงนะ เพราะว่าเราลิสต์มาให้แล้วกับรวม 12 ร้าน 1 ดาวมิชลินสตาร์ โตเกียวราคาถูก ร้านอร่อยเด็ดในญี่ปุ่นที่ต้องไปลอง
1 คัปโป นากาจิมะ (Kappo Nakajima)
ไปที่ย่านชินจูกุกันก่อนเลย ด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรู คัปโป นากาจิมะ ร้านซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดินของอาคาร Nichihara (日原ビル) อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินชินจูกุซันโชเมะ (Shinjuku-sanchome Station) ซึ่งทางร้านจะเปิดเป็น 2 ช่วง สำหรับช่วงเย็นจะแพงหน่อยเพราะเป็นเมนูคอร์สญี่ปุ่นประมาณ 15,000 เยน (ประมาณ 4,000 กว่าบาท) ถ้าอยากประหยัดงบหน่อย แต่ก็ได้ฟีลอาหารญี่ปุ่นระดับมิชลิน แนะนำเป็นช่วงกลางวัน จะมีเซ็ตเมนูกลางวันเริ่มต้นที่ 880 เยน (ประมาณ 200 บาทนิดๆ)
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-14.00น. และ 17.30-23.30น. (หยุดวันอาทิตย์)
พิกัด: ชั้น B1 Nichihara Building 3 Chome-32-5 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Shinjuku-sanchome 2 นาที
แผนที่
2 เจแปนนีส โซบะ นูดเดิล สึตะ (Japanese Soba Noodle Tsuta)
ร้านสึตะ ร้านนี้คือตำนาน เพราะว่าเป็นร้านแรกที่ได้รับดาวมิชลินเลยนะ ใครเดินเข้าไปก็จะเห็นถ้วยรางวัลที่ชนะการแข่งขันมากมายกว่าพันๆ ร้านเลย โหววว เยอะจริงจัง ด้วยความที่เค้าเป็นร้านดัง เค้าก็จะมีกฎของเค้าด้วยนะ เช่น ห้ามถ่ายรูปในครัว หรือ 1 คน สามารถสั่งได้ 1 ชาม เท่านั้น แนะนำเมนูโชยุโซบะ ที่อิ่มอร่อยได้ในราคาแค่ 900 เยน (ประมาณ 250 บาท)
แนะนำว่าควรไปวันธรรมดา เพราะถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดทางร้านเค้าจะแจกบัตรคิวซึ่งเราก็ต้องไปรอรับบัตรคิวกันตั้งแต่เช้า และมีค่ามัดจำบัตรคิวอีกพันเยน ถ้าไปวันธรรมดาไม่ต้องใช้บัตรคิว
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-อาทิตย์ (เว้นวันพุธ) เวลา 11.00-16.00น. และ 18.00-21.00น.
พิกัด: 1 Chome-14-1 Sugamo, Toshima-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Sugamo 2 นาที
แผนที่
3 นาคิริว (Nakiryu)
นาคิริว ร้านนี้เป็นร้านราเมนที่ได้รับดาวมิชลินลำดับที่ 2 ต่อจากร้านสึตะ เป็นร้านเล็กๆ ที่นั่งได้เพียง 10 ที่นั่ง ตั้งอยู่ในย่านโอสึกะ โด่งดังในเมนู “ทันทันเมน” ที่หอมกลิ่นพริกกับงา ราคา 850 เยน (ประมาณ 200 บาทนิดๆ) เค้าจำกัดให้ 1 คนสั่งราเมนได้ 1 ชามเท่านั้นนะ เพื่อให้แจกจ่ายกันทั่วถึง เพราะว่าคนมารอคิวตลอด อีกจุดเด่นหนึ่งของร้านคือน้ำซุปที่ทำใหม่วันต่อวัน ถ้าน้ำซุปหมดก็อดกินนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นต้องรีบไปกินล่ะ
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ เวลา 11.30-15.00น. , พุธ-อาทิตย์ 11.30-15.00น. และ 18.00-21.00น. (หยุดวันอังคาร)
พิกัด: ชั้น 1 SKY Minamiotsuka 2 Chome-34-4 Minamiotsuka, Toshima-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Otsuka Station หรือ Otsukaekimae Station ประมาณ 5 นาที
แผนที่
4 โซบะเฮาส์ คนจิกิ โฮโตโตกิสุ (Soba House Konjiki Hototogisu)
คนจิกิ โฮโตโตกิสุเป็น อีกหนึ่งร้านมิชลิน 1 ดาวน้องใหม่ในย่านชินจูกุ เป็นร้านราเมนที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็กๆ ใกล้สวนสาธาณะชินจูกุเกียวเอ็น มีที่นั่งเพียง 7 ที่นั่ง แต่ก็อยู่ใกล้กับย่านออฟฟิศที่มีคนเข้าร้านตลอดเวลา แนะนำว่าควรไปวันธรรมดาจะได้ไม่รอคิวนาน ชื่อร้านหมายถึง “นกคุกคูสีทอง” ตามน้ำซุปสีทองในชามราเมนนั่นเอง ราคาเริ่มต้น 900 เยน (ประมาณ 250 บาท)
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-15.00น. และ 18.30-21.30น. (หยุดวันอาทิตย์)
พิกัด: ชั้น 1 22nd Miyaniwa Mansion 2 Chome-4-1 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Shinjuku-sanchome 4 นาที
แผนที่
5 โอนิกิริ อาซากุสะ ยาโดโรกุ (Onigiri Asakusa Yadoroku)
ยาโดโรกุ เป็นร้านข้าวปั้นโอนิกิริที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ซึ่งราคาโอนิกิริก็เริ่มต้นแค่ก้อนละ 290 เยน (ประมาณ 80 บาท) ซึ่งเราจะได้เห็นพ่อครัวปั้นโอนิกิริให้เราเห็นใหม่ๆ ทีละก้อนๆ ด้วยส่วนผสมที่คัดมาแล้วอย่างพิถีพิถัน เพราะฉะนั้นยืนยันได้ถึงรสชาติและความสดใหม่ ใครจะซื้อแล้วนั่งกินที่นี่เลย หรือว่าจะสั่งกลับบ้านก็ได้ ซึ่งก็ต้องไปเร็วๆ อีกเหมือนกันเพราะว่าถ้าข้าวหมดก็ปิดร้านเลย
เวลาเปิด-ปิด:
– จันทร์, พฤหัสบดี-เสาร์ เวลา 11.00-15.00น. และ 18.00-21.00น.
– อังคาร-พุธ เวลา 11.30-15.00น.
– อาทิตย์ เวลา 18.00-21.00น.
พิกัด: 3 Chome-9-10 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Asakusa 8 นาที
แผนที่
6 ริวกิว ไชนีส ไดนิ่ง ทามะ (Ryukyu Chinese Dining TAMA)
ทามะ ร้านอาหารแนวฟิวชั่น เป็นการผสมผสานอาหารจีนกับอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่าได้เข้ากันอย่างลงตัว ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่เรียบหรูสไตล์บาร์ตะวันตก ทำให้อาหารจีนดูหรูขึ้นมาภายในย่านชิบูย่าของญี่ปุ่น เมนูอยู่ที่ประมาณ 1,000 เยนขึ้น (ประมาณ 200 กว่าบาท) และเหมาะสำหรับคนที่หิวตอนดึกๆ เพราะว่าร้านเค้าเปิดถึงตีสาม
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-เสาร์ เวลา 18.30-03.00น.
พิกัด: ชั้น 2 Fujimoto Building 2 Chome-3-2 Shibuya, Shibuya-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Shibuya 10 นาที
แผนที่
7 จัสมิน สาขาฮิโรโอะ (JASMINE Hiroo Honten)
ร้านจัสมิน สาขาฮิโรโอะ เป็นภัตตาคารอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น เน้นเป็นอาหารจีนแถบเจียงหนาน รวมไปถึงอาหารฮ่องกงและสิงคโปร์ แต่ละจานอร่อยคุ้มค่าสมราคา แนะนำเมนูขึ้นชื่อของร้าน Yodare Tori Lunch Set ไก่หมักน้ำส้มสายชูดำกับน้ำมันพริกเผาและเครื่องเทศกว่า ตามแบบฉบับของร้าน แนะนำว่าให้ไปวันธรรมดา เมนูเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า อยู่ที่พันเยนนิดๆ ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์จะอยู่ที่ 1600 เยน
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 11.30-15.00น. และ 18.00-23.00น.
พิกัด: ชั้น 1 Hiroo Nishikawa Building 5 Chome-22-3 Hiroo, Shibuya-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Hiroo Station 8 นาที
แผนที่
8 โทริซึเนะ ชิเซ็นโด (Toritsune Shizendo)
ใครชอบเมนูไก่ต้องร้านนี้ โทริซึเนะ ชิเซ็นโด ตั้งอยู่ในย่านซุเอฮิโระโจ กับเมนูเด็ด “โอยาโกะด้ง” สามารถเลือกที่นั่งได้ไม่ว่าจะอยากติดเคาท์เตอร์ครัวเปิด นั่งดูเค้าทำให้กิน หรือจะนั่งโต๊ะธรรมดาก็ได้ ไพรเวทหน่อยก็มีห้องส่วนตัวเป็นแบบนั่งพื้นได้ฟีลญี่ปุ่นดีนะ ส่วนเมนูแรร์ไอเท็มต้องยกให้ Tokujo Oyakodon ข้าวหน้าไก่สุดพรีเมียมจำกัดวันละ 20 ชาม ในราคา 1,800 เยน (ประมาณ 500 บาท)
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-14.00น. และ 17.30-22.00น. (หยุดวันอาทิตย์)
พิกัด: 5 Chome-5-2 Sotokanda, Chiyoda-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Suehirocho 3 นาที
แผนที่
9 คางาวะ อิปปุกุ (Kagawa Ippuku)
ร้านอุด้งแบบดั้งเดิม เป็นร้านดังของคางาวะ ใครชอบกินอูด้งแนะนำว่าต้องลองไปร้านนี้สักครั้ง โดยเฉพาะเส้นอูด้งของเค้าเหนียวนุ่มแบบไม่เหมือนใครเลยล่ะ ร้านมีอยู่หลายสาขา แนะนำสาขาแรกอยู่ที่ย่านคันดะ ราคาอูด้งแล้วแต่ไซส์ ตั้งแต่ S M L เริ่มต้นที่ 500 เยน (ร้อยกว่าบาทเอง) และเหมือนกับร้านมิชลินอื่นๆ คือถ้าเส้นอูด้งหมดก็ปิดร้านจ้า
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-18.00น. (หยุดวันอาทิตย์ และวันจันทร์สัปดาห์แรก)
พิกัด: Tokyo Royal Plaza 102 1 Chome-18-11 Uchikanda, Chiyoda-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Kanda 5 นาที
แผนที่
10 อันดะเกี๊ยวซ่า (Anda Gyoza)
จะกินเกี๊ยวซ่าให้อร่อยก็ต้อง อันดะเกี๊ยวซ่า ที่ได้รางวัลมิชลินมาแบบสวยๆ บรรยากาศได้ฟีลญี่ปุ่นแบบเก่านิดๆ มีที่นั่งให้เข้าไปนั่งกิน หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้ ความอร่อยเด็ดอยู่ที่เกี๊ยวซ่านี่แหละ ที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นแบบโฮมเมดล้วนๆ ขนาดเครื่องดื่มยังใช้เมล็ดโคล่าทำเองเลย และยังมีเครื่องปรุงต่างๆ บนโต๊ะให้ได้ลองกัน เซ็ตรวมเกี๊ยวซ่าก็จะอยู่ที่ประมาณพันเยน
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 11.00-23.00น.
พิกัด: 3 Chome-21-2 Nishihara, Shibuya-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Yoyogi-Uehara 4 นาที
แผนที่
11 ทงคัตสึ มาซามุเนะ (Tonkatsu Masamune)
เอาล่ะ มาถึงเมนูทงคัตสึกันบ้างแล้วกับร้าน ทงคัตสึ มาซามุเนะ อยู่ในย่าน ทาเมะอิเคะซันโน ร้านข้าวหน้าหมูทอดเจ้าดังของที่นี่ ถึงแม้จะดูเหมือนหมูทอดทั่วไป แต่เค้าพิถีพิถันตั้งแต่น้ำมันที่ใช้ทอดเลยนะ รวมไปถึงเนื้อหมูชั้นดีและแป้งสูตรพิเศษ วัตถุดิบดีซะขนาดนี้อยากจะลองบ้างเลย เมนูเซ็ตทงคัตสึอยู่ที่ประมาณพันกว่าเยน แต่บอกเลยว่าอิ่มคุ้มแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด:
– จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-15.00น. และ 18.00-22.00น.
– เสาร์ เวลา 11.30-15.00น. (หยุดวันอาทิตย์)
พิกัด: 2 Chome-8-19 Akasaka, Minato-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Tameike-Sanno 2 นาที
แผนที่
12 เมนยะ อิชิน (Menya Ishin)
มาถึงราเมนอร่อยๆ อีกหนึ่งร้าน เป็นราเมนสไตล์โยโกฮาม่า ตั้งอยู่ใกล้สถานีเมกุโระ มีที่นั่งแบบเคาท์เตอร์ ที่นี่เค้าคัดวัตถุดิบแบบเน้นๆ เส้นราเมนเป็นเส้นโฮมเมด ซึ่งมั่นใจได้ว่าราเมนทุกชามนอกจากอร่อยแล้วยังจะต้องดีต่อร่างกายอีกด้วย ราเมนอยู่ที่ประมาณ 800 เยน (สองร้อยบาทนิดๆ) แถมร้านนี้ยังได้รางวัลจากมิชลินหลายปีติดๆ กันเลยล่ะ
เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-15.00น. และ 18.00-22.00น. (หยุดวันอาทิตย์)
พิกัด: ชั้น 1 SANRION Building 3 Chome-4-1 Kamiosaki, Shinagawa-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดินจากสถานี Meguro 5 นาที
แผนที่