ของมันต้องมี! 5 ร้าน เครื่องสำอางฮ่องกง
เรื่องช้อปปิ้งกับสาวๆ มันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเครื่องสำอางเนี่ย พลาดไม่ได้เด็ดขาด วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำ ร้าน เครื่องสำอางฮ่องกง 5 ร้านเด็ด ที่บอกเลยว่า ของมันต้องมีแล้วแหละ
1. ซาซ่า Sasa
เห็นร้านสีชมพูหวานแหววอยู่ไกลๆ ก็ใช่เลยร้าน Sasa นั่นเอง ถือว่าเป็น ร้านเครื่องสำอางฮ่องกง อันดับ 1 เลยก็ว่าได้ มีสาขาเปิดเยอะยังกะเซเว่น ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เห็น เพราะฉะนั้น หาง่ายมากๆ สำหรับ Sasa เค้าขึ้นชื่อเรื่องน้ำหอมแบรนด์เนมของแท้ ที่ราคาถูกและมีให้เลือกเยอะ นอกจากนี้พวกเครื่องสำอาง สกินแคร์ ต่างๆ ก็มีเหมือนกัน
2. Bonjour
พูดถึง Sasa แล้วก็ต้องมีคู่แข่งที่สูสีกันอย่าง Bonjour ซึ่งก็จะอยู่ใกล้ๆ กันเกือบทุกที่ ถึงแม้จำนวนสาขาอาจจะมีน้อยกว่านิดหน่อย แต่เรื่องราคาไม่เคยมีใครยอมใคร ถ้าเทียบกันจริงๆ ก็ถูกกว่ามากเหมือนกัน ไหนๆ ร้านมันก็อยู่ใกล้ๆ กันอยู่แล้ว ก็ลองสำรวจราคาเปรียบเทียบก่อนได้นะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพซะมากกว่า
3. Colourmix
Colourmix เจ้านี้ก็ไม่น้อยหน้าใครเลย เพราะเป็นร้านเครื่องสำอางฮ่องกง ที่มีครบทั้งเครื่องสำอาง น้ำหอม ถือเป็นน้องใหม่มาแรงตามพี่ๆ ทั้งสองมาติดๆ ถึงสาขายังไม่เยอะเท่า แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ราคาจะถูกกว่า Sasa และใกล้เคียงกับ Bonjour มาก ของในร้านก็จะเหมาะสำหรับสาวๆ วัยรุ่นซะมากกว่า
4. Godwell Dispensary & Cosmetic
เอ๊ะ ยังไง! ร้านยาก็มีเครื่องสำอางเหรอ Godwell เป็นร้านเล็กๆ ในย่านจิมซาจุ่ย ที่แบ่งฟากซ้ายขวาเป็นร้านยากับเครื่องสำอางคนละโซนกัน ที่นี่เค้าโด่งดังเรื่องน้ำหอม เพราะเป็นร้านขายส่งน้ำหอมที่ใครๆ ก็พูดถึง ซึ่งจะมีทั้งแบบ tester กล่องสีน้ำตาลที่ราคาถูกกว่า และแบบกล่องปกติ ด้วยหน้าร้านที่พื้นที่จำกัด ของอื่นๆ ก็ไม่ได้มีให้เลือกเยอะมาก เน้นยี่ห้อดังๆ แต่ราคาไม่แพงเลย
Cr. GodwellCosmetic
5. Lung Shing Dispensary & Cosmetic
Lung Shing ร้านเล็กๆ ที่ไม่ไกลจาก Godwell มากนัก เพราะว่าอยู่ย่านจิมซาจุ่นบนถนนเดียวกันคือ ถนน Carnarvon ฟีลก็จะประมาณร้านของชำ ซึ่งก็แบ่งเป็น 2 โซนเหมือนกัน คือร้านขายยา กับเครื่องสำอาง ซึ่งมีให้เลือกแบบจุใจกันเลย มีทั้งแบรนด์ดังๆ รวมไปถึงแบรนด์ของญี่ปุ่น เกาหลี แถมราคายังถูกว่าร้านใหญ่ๆ อีกด้วย
Cr. lydsblg.blogspot.com
เล็กๆ น้อยๆ ก่อนซื้อเครื่องสำอาง
1. ซื้อน้ำหอมอย่าลืมดูวันหมดอายุ บางทีมันก็ของแท้นั่นแหละ แต่ใกล้วันหมดอายุมากๆ กลิ่นก็จะจางกว่าเดิม เพราะส่วนใหญ่ที่ร้านเอามา sale ก็ใกล้หมดอายุแล้วล่ะ ถ้าใครมั่นใจว่าซื้อไปแล้วใช้หมดทันก็จัดเลย แต่ถ้าไม่ชัวร์ก็อาจจะเพิ่มเงินอีกหน่อย ซื้อที่ใหม่กว่านี้หน่อยดีกว่า
2. หนักแน่นเข้าไว้ ถ้าเรามีของที่อยากจะซื้ออยู่ในใจ เพราะถ้าเราฟังคนขาย แน่นอนว่าเค้าต้องเชียร์ของที่อยากขายอยู่แล้ว ถ้าเค้าแนะนำดีก็ถือว่าได้ตัวเลือกดีๆ แต่บางทีอาจจะเชียร์ของเก่าโล๊ะสต็อก อันนี้ต้องเช็ควันที่ดูดีๆ นะ
3. ซื้อแล้วอย่าลืมเช็คของ ก่อนจะจ่ายเงินก็แกะกล่องเช็คดูสักหน่อย เผื่อผิดสีผิดแบบจะได้เปลี่ยนทัน ยิ่งเรามาจากที่ไกลๆ จะไปขอเปลี่ยนก็จะยุ่งยากไปใหญ่
4. ทั้งนี้ ร้านชื่อดังที่มีหลายสาขา น่าจะไว้วางใจได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ แต่กันเอาไว้ก่อนก็ไม่เสียหายนะจ๊ะ