ลัดเลาะรอบอิตาลี 6 เมืองใหญ่ห้ามพลาด!
วันนี้ขอมาไกล พาไปยุโรปกันบ้าง นั่นก็คือ อิตาลี นั่นเอง ประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Destination ของคนไปเที่ยวยุโรป ติดอันดับความโรแมนติกที่ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวอิตาลี ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่เพียงในกรุงโรมเท่านั้นนะ ยังมีอีกหลายเมืองที่ต่างก็มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ดูไปดูมา เลือกไม่ถูกว่าจะไปเมืองไหน ก็ไปมันทั้งหมดเลยละกัน
กรุงโรม เมืองหลวงแห่งอิตาลี
เมืองแห่งอารยธรรมเก่าแก่ของอาณาจักรโรมัน แหล่งกำเนิด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก โคลอสเซียม คิดดูว่าสมัยนั้น สร้างสนามขนาดใหญ่จุคนได้มากมายขนาดนั้นได้อย่างไร และที่ไม่ธรรมดาคือยังมีกลไกต่างๆ ในการเปิดปิดเวที เลื่อนขึ้นเลื่อนลง ห้องใต้ดิน ห้องนักโทษ ห้องสิงโตกว่าหลายร้อยห้อง ถือว่าเป็นสุดยอดวิศวกรรมเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ก็ต้องไปโยนเหรียญอธิษฐานที่ น้ำพุเทรวี่ เค้าว่ากันว่าถ้าได้โยนเหรียญที่นี่ จะมีโอกาสได้กลับมาอีกครั้ง และนอกจากเรื่องอธิษฐาน อยากจะให้เห็นว่าเค้าสร้างได้ลวดลายละเอียดสวยงามเป็นที่สุด
ชวนกันไปนั่งเล่นที่ บันไดสเปน บันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป แล้วเดินช้อปปิ้งกันต่อ ย่านนี้มีของแบรนด์เนมให้เลือกเยอะ และมีตึกสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้เราได้เดินชม
มิลาน เมืองแห่งอดีตและอนาคต
มิลานเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวของอิตาลี เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสอง และเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารดูโอโม่ สุดยอดสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างที่ยาวนานหลายต่อหลายรุ่น มหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์จากหินอ่อน แกะสลักได้สวยงามวิจิตรบรรจง งดงามตามสไตล์โกธิค ที่กว่าจะสร้างกันเสร็จก็ปาไปหลายร้อยปี
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ มิลานยังเป็นสุดยอดเมืองแฟชั่นของยุโรป ไม่ห่างกันนักสามารถเข้าไปช้อปปิ้งได้ที่ Galleria Vittorio Emmanuelle ภายใต้กระจกโค้งและสถาปัตยกรรมสวยงาม ที่เต็มไปด้วยแบรนด์ดังและร้านสุดหรู หรือใครจะไปเดินเล่นแดนแฟชั่นแห่งมิลาน Quadrilatero dell Moda ถ้าไม่จุใจแนะนำไปต่อที่ Via Sant’Andrea
Cr. www.maart.mi.it
เวนิส ดินแดนแห่งสายน้ำ
เวนิสเมืองแห่งคลอง ที่เต็มไปด้วยคลองน้อยใหญ่อยู่ทั้งเมือง เต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยที่รวมๆ กัน เชื่อมต่อด้วยสะพาน กลายเป็นแพผืนใหญ่ที่เรียกว่าเวนิส ชวนกันไปนั่งเรือกอนโดล่าชมบ้านชมเมือง ถ่ายรูปโบสถ์ซานตามาเรียฯ แล้วไปเดินเล่นจัตุรัสซานมาร์โค
ดื่มด่ำเมืองเก่า ฟลอเรนซ์
เมืองมรดกโลกหลังคาสีส้มอิฐ ได้บรรยากาศสุดคลาสสิคเหมือนย้อนอดีตไปยังวันวาน ที่มีตึกรามบ้านช่องสวยงามในแบบเรอเนซองส์ เต็มไปด้วยปราสาท วิหารอันเก่าแก่ แต่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้ให้เราได้ดูกัน
อย่าลืมไปชมสะพานเวคคิโอ สะพานเก่าแก่เพียงแห่งเดียวที่รอดพ้นจากสงครามโลกมาได้ และนอกจากนี้ ฟลอเรนซ์ยังเป็นแหล่งกำเนิดศิลปิน ไมเคิลเองเจลโลและ ลีโอนาโดดาวินชี่ อีกด้วย
นครวาติกัน รัฐเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่
นครวาติกัน เป็นรัฐเล็กๆ ที่เล็กที่สุดในโลก แต่ยังมีความยิ่งใหญ่ของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ถือเป็นมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นรัฐแห่งแรงศรัทธา พระสันตปาปาก็ประทับอยู่ที่นี่
ถ่ายรูปคู่หอเอนเมืองปิซ่า
คงไม่ต้องบอกว่ามาเมืองปิซ่าแล้วต้องไปเจอกับอะไร ก็หอเอนเมืองปิซ่านั่นเอง หอคอยที่ดูเหมือนจะลมแต่กลับไม่ล้ม และยังคงตั้งแบบเอนๆ มาเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี มหัศจรรย์มั้ยล่ะ เอาล่ะ มาถึงแล้วจะโพสท่าไหนกับหอเอนฯดี จะแบก จะดัน จะเกาะ เอาเลยตามสะดวก แอบถ่ายรูปชาวบ้านมาก็ฮาดีเหมือนกันนะ
นี่แค่ 6 เมืองอิตาลีที่เด่นๆ ดังๆ ยังน่าไปขนาดนี้ เมืองอื่นๆ ในอิตาลีก็ยังมีอยู่นะ แต่ก่อนอื่น ขอตามเก็บไฮไลท์เด็ดๆ ให้หมดก่อนละกัน