ขึ้นเครื่องบินในประเทศ ไม่ยากอย่างที่คิด
จะบินไปเที่ยวจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ จองตั๋วเรียบร้อย ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องบินกันแล้วล่ะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยขึ้นเครื่องบินในประเทศ บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด เราจะมารีวิวเป็นสเต็ปๆ กันเลย
1. เตรียมตัวให้พร้อม หลังจากที่เราจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ Itinerary หรือ E-Ticket ซึ่งเอกสารตัวนี้จะเอาไว้ไปยืนยันกับทางสนามบิน โดยจะพิมพ์ออกมา เก็บเป็นรูปไว้ในมือถือก็ได้ เพื่อเอาไปเช็คอินต่อไป และอย่าลืมเผื่อเวลาเดินทาง ควรไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง
2. เช็คไฟลท์ เมื่อถึงสนามบิน สามารถเช็คดูจอมอนิเตอร์ได้ว่าเที่ยวบินที่เรากำลังจะนั่งไปนั้นมีสถานะเป็นยังไง โดยดูสายการบิน ไฟลท์บิน เวลาเดินทาง ดูได้ว่าออกตรงเวลาหรือว่าดีเลย์ แล้วก็ไปเคาท์เตอร์เช็คอินหมายเลขอะไร แต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่าเคาท์เตอร์อยู่ตรงไหน ก็ตรงไปเลย
3. ได้เวลาเช็คอิน เดินไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินช่องผู้โดยสารในประเทศ เพื่อเช็คอินและโหลดกระเป๋า ส่วนใหญ่เดินทางใกล้ๆ น้ำหนักกระเป๋าไม่เยอะ ก็ไม่ต้องโหลดกระเป๋า ถือขึ้นเครื่องได้เลย ให้ยื่นบัตรประชาชน พร้อมเอกสารตั๋วเครื่องบินที่ได้จองไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เลือกที่นั่ง เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะให้ Boarding Pass กลับมาเพื่อนำไปขึ้นเครื่องบิน อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และดูข้อมูลที่นั่ง เกท ให้เรียบร้อย
4. เข้าโซนผู้โดยสารขาออก มองหาป้ายผู้โดยสารขาออกภายในประเทศแล้วเดินไปเลย ส่งบัตรประชนชนพร้อม Boarding Pass ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ > วางกระเป๋าใส่สายพาน x-ray ส่วนของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ เข็มขัด ให้หยิบออกมาวางในตระกร้าให้หมด > วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ > รับสัมภาระคืน
5. ไปที่เกท ใน boarding pass จะมีหมายเลขเกทระบุไว้อยู่แลว เราก็เดินไปตามเกตนั้น ซึ่งจะมีป้ายบอกทางอยู่เป็นระยะๆ หรือจะดูข้อมูลจากจอมอนิเตอร์ได้เหมือนกัน ทางที่ดีควรตรวจเช็คกับมอนิเตอร์อีกครั้ง เพราะบางทีอาจมีเปลี่ยนเกท หรือไฟลท์ดีเลย์ได้ ถ้าเผลอไปรอผิดเกทขึ้นมา อาจจะได้วิ่งกันจนหอบเลยล่ะ
6. รอขึ้นเครื่อง ใครไปถึงเกทก่อนเวลาเครื่องออกตั้งแต่ 60 นาทีขึ้นไป มีเวลาเหลือๆ จะไปเดินชิลล์ช้อปปิ้ง กินข้าวก่อนก็ได้ เดินเล่นก่อนก็ได้ อย่าลืมเข้าห้องน้ำ ทำธุระให้เรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง ถึงบนเครื่องจะมีห้องน้ำ แต่มันก็ไม่ได้สะดวกเท่าห้องน้ำบนพื้นดินหรอกนะ
7. ขึ้นเครื่อง ก่อนเวลา boarding time หรือเวลาเครื่องออกประมาณ 30-40 นาที จะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง ซึ่งเค้าจะเรียกผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วใน class แพงขึ้นก่อน เช่น Business class, Hot seat, High Flyer จากนั้นจึงตามด้วยผู้โดยสารที่เหลือ ยื่นประชาชนพร้อม Boarding Pass ให้เจ้าหน้าที่ฉีก Boarding Pass ออกแล้วคืนส่วนที่เหลือให้เรา
8. หาที่นั่ง เมื่อเดินขึ้นไปบนเครื่องบิน ก็ต้องหาที่นั่งกันล่ะ ให้สังเกตดูข้างบนตรงที่เป็นช่องเก็บสัมภาระ จะมีหมายเลขที่นั่งระบุเอาไว้ ซึ่งก็จะเรียงแถวจากเลข 1 ไปจนถึงเลขสุดท้าย และที่นั่ง ABC DEF ก็จะไล่จากซ้ายไปขวา ให้นั่งตามหมายเลขของเรา เก็บกระเป๋าสัมภาระไว้ข้างบนเหนือหัวเรา ไม่กินที่ไปช่องคนอื่น ส่วนของมีค่าต่างๆ เก็บเอาไว้กับตัว
9. เครื่องออก เมื่อได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว รัดเข็มขัดให้เรียบร้อย ปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดก่อนเครื่องออก และจะสามารถเปิดใช้งานในระบบ flight mode ได้หลังจากที่เครื่องรักษาระดับได้แล้ว จะมีไฟสัญญาณบอก ซึ่งก่อนที่เครื่องจะ Take Off จะมีลูกเรือมาสาธิตความปลอดภัย เช่นหน้ากากออกซิเจน เสื้อชูชีพ ประตูทางออกฉุกเฉินให้ดูด้วย ใครที่หูอื้อให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือกลืนน้ำลายบ่อยๆ จะช่วยได้ ใครอยากอาเจียนจะมีถุงอ้วกอยู่ในช่องใส่หนังสือ ถ้าไม่มีให้ถามเจ้าหน้าที่
10. ถึงแล้ว เมื่อถึงที่หมาย ตรวจสอบสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อย เดินออกจากเครื่อง ใครมีโหลดกระเป๋าให้ไปรอรับที่สายพาน ถ้าไม่รู้ว่าต้องไปสายพานไหน ให้ดูหน้าจอมอนิเตอร์จะมีระบุไว้ใน ได้กระเป๋าแล้วก็เดินออกสนามบินได้เลย
ใครที่กลัวว่าจะทำผิด ไม่ต้องกังวลค่ะ เค้าจะมีสเต็ปของเค้าอยู่แล้ว หรือไม่ก็ทำตามคนข้างหน้า ถามคนข้างๆ ก็ได้ บินในประเทศคุยกับคนไทยด้วยกันอยู่แล้ว เที่ยวให้สนุกนะคะ