มือใหม่หัดเที่ยวญี่ปุ่น จะเดินทางในญี่ปุ่นต้องทำยังไงดีนะ?
โอ๊ยยย อยากเที่ยวญี่ปุ่นอ่ะเธอ แต่ก็ไม่เคยไปเองเลยซักที จะหลงมั้ยนะ เอายังไงดีล่ะทีนี้ ลองนั่งรถไฟเที่ยวกันดีกว่า น่าจะสะดวกที่สุดละ แถมรถไฟก็มีหลายสายทั่วญี่ปุ่น อยากเที่ยวไหนก็เที่ยวได้สบายๆ
มาทำความรู้จักกับ JR Pass
JR PASS ตั๋วสำหรับขึ้นรถไฟในญี่ปุ่น แต่ยังไงดีล่ะ ทำไมมันมีเยอะจัง มึนๆ งงๆ อยู่หรือเปล่า เลือกไม่ถูกล่ะสิ เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟัง
Cr. misshappyfeet.blogspot.com
JR PASS หรือ Japan Rail Pass จะเป็นตั๋วแบบเหมา คือซื้อมาแล้วจะขึ้นรถไฟ JR Line กี่เที่ยวก็ได้ ไม่จำกัด โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบ Green Pass กับแบบ Ordinary Pass
ซึ่งความแตกต่างของมันก็คือ Green Pass จะได้ที่นั่งกว้างกว่า นั่งสบาย เหมาะกับการเดินทางไกลๆ เช่นออกนอกเมือง
ส่วน Ordinary Pass ก็แบบธรรมดานั่นเอง แต่ถ้าเราไม่ได้อะไรมากมาย เดินทางใกล้ๆ แค่โตเกียว ใช้แบบนี้ก็เกินคุ้มละ
ซึ่งมันก็จะมีตั๋ว 3 แบบให้เลือกคือ 7 วัน 14 วันและ 21 วันตามนี้จ้า
อ้อ! ไม่ใช่แค่รถไฟนะจ๊ะ บัตรเนี้ย ยังใช้โดยสารรถ JR ได้เกือบทั่วญี่ปุ่นอีกต่างหาก คุ้มใช่มั้ยล่ะ
ซึ่งมันก็จะแบ่งตามภูมิภาคต่างๆ เช่น JR All (เที่ยวทั่วญี่ปุ่น), JR Central (ภาคกลาง), JR West (คันไซ), JR East (ภาคตะวันออก), JR Kyushu (เกาะคิวชู), JR Hokkaido (ฮอกไกโด) เลือกตามเส้นทางที่เราจะเดินทางได้เลย…
JR Line VS Keisei Line
บอกก่อนนะว่าสองสายนี้ไม่เหมือนกัน เพราะบัตร JR ไม่สามารถใช้ขึ้น Keisei Line ได้นะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด ขึ้นผิดขึ้นถูกกันพอดี
JR Line จะมีอยู่ 2 ขบวน คือ JR Narita Express กับ JR Rapid Service โดยที่ขบวน Express นั้นจะถึงสถานี JR Tokyo ได้เร็วกว่าและราคาแพงกว่า JR Rapid Service เพราะว่าแวะจอดตามสถานีน้อยกว่านั่นเอง
Keisei Line จะมีอยู่ 2 ขบวน คือ Keisei Skyliner กับ Keisei Limited Express โดยทั้งสองขบวนจะถึงสถานี Keisei Ueno Station ใกล้ๆกับสวนอุเอโนะ โดย Skyliner จะใช้เวลาน้อยกว่าและแพงกว่า Limited Express อยู่พอสมควรเลยทีเดียว
การซื้อตั๋วจากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ
จริงๆ เดี๋ยวนี้ซื้อบัตร JR PASS ออนไลน์ได้แล้ว แต่ถ้าใครอยากได้ฟีลลองกดซื้อจากตู้ขายตั๋วดู ก็มาดูวิธีการกันจ้า
- เลือกจำนวนตั๋วที่ต้องการจะซื้อ
- เลือกเด็กหรือผู้ใหญ่
- เลือกประเภทของรถ (เขียนไว้ท้ายๆ entry)
- เลือกราคาตามที่แจ้งไว้บนป้าย (คล้าย BTS บ้านเรานี่แหละ)
- หยอดเงินตามจำนวน (ตู้สามารถทอนเป็นแบงค์ได้)
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับรถไฟญี่ปุ่น
รถไฟของญี่ปุ่นที่วิ่งในเขตตัวเมืองจะมีอยู่ 4 แบบ ได้แก่:
1. Local – จะจอดทุกสถานีย่อยๆที่ผ่าน ก็เล่นแวะตลอดทางอย่างงี้ ก็จะใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าเป็นธรรมดา แต่ราคาตั๋วถูกที่สุด และมีรถไฟวิ่งอยู่หลายขบวน ไม่ต้องรอนาน (คล้ายๆ รถเมล์เราอะเนอะ)
2. Rapid service – จะจอดน้อยกว่า Local เพื่อย่นระยะเวลาเดินทาง ราคาตั๋วเท่ากันกับ Local แต่ต้องรอนานหน่อย
3. Express – จะจอดน้อยกว่า Rapid service ราคาตั๋วจะอัพขึ้นมาพอสมควร แต่เพื่อความรวดเร็วก็โอเค
4. Limited Express – จะจอดเฉพาะสถานีหลักตามย่านต่างๆ ราคาตั๋วแพงที่สุด และอาจจะต้องรอนานตั้งแต่ 20-40 นาทีต่อขบวนเลยทีเดียว
ถ้าจะเดินทางใกล้ๆ แนะนำ Local หรือ Rapid Service ดีกว่า
พอจะเข้าใจเรื่อง JR PASS มาพอสมควรแล้วนะ ลองไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดู เดินทางไม่ยากเลย